นอนไม่หลับทำไงดี?
หลายท่านคงเคยเกิดอาการที่อยากนอนแต่ดันนอนไม่หลับนับแกะก็แล้วนับดาวก็แล้วยังไงก็ไม่หลับจนหลายๆท่านต้องหันไปพึ่งยานอนหลับกันเลยทีเดียว ‘ซึ่งการนอนไม่หลับ” นั้นเกิดขึ้นได้กับทุกคนแต่สำหรับบางคนแล้วอาจทำให้เกิดการนอนเป็นเรื้อรังจนนำไปสู่โรคนอนไม่หลับ โรคนอนไม่หลับนั้นจะแบ่งเป็นสองประเภท คือแบบเป็นครั้งครา และ แบบเรื้อรัง ซึ่งในประเทศไทยมีผู้ที่ประสบปัญหาเรื่องการนอนไม่หลับและมาปรึกษาแพทย์โดยสามราถระบุได้ว่าร้อยละ40ที่มาปรึกษาเข้าขั้นที่จะนำไปสู่การเป็นโรคนอนไม่หลับได้และมีโอกาศเสี่ยงที่จะเป็นโรคนอนไม่หลับเรื้อรัง โรคนอนไม่หลับแบบเป็นครั้ง transient imsomnia ส่วนใหญ่จะมีปัญหาของการปรับตัวกับสถานที่ สภาพแวดล้อม สภาพอากาศ และมีสาเหตุมาจากความตรึงเครียด ส่วนปัญหาการนอนไมหลับแบบเรื้อรังจะเป็นผลที่มาจากจิตใจโดยตรงหรือศัพท์ทางการแพทย์เรียกว่า Psychophysiological insomnia เป็นการที่เกิดความคิดขึ้นเองเช่น การหวาดระแวง คิดกังวล คิดว่าวันนี้ต้องนอนไม่หลับเหมือนเคย ซึ่งส่วนใญ่จะพบกับผู้ป่วยที่มีอาการทางจิตอ่อนๆแต่ถ้าหากปล่อยลุกลามอาจทำให้ท่านเข้าข่าย เป็นผู้ป่วยทางจิต เมื่อท่านเริ่มรู่สึกว่ามันเริ่มเป็นหนักขึ้นควรพบแพทย์โดยด่วน ซึ้งถ้าหากท่านรู้สึกว่าตัวเองป่วยมาถึงขั้นนี้แล้วอย่าปล่อยให้ลุกลามเพราะอาจทำให้ท่านเสี่ยงต่อโรคซึมเศร้าในที่สุด
ทั้งนี้โรคนอนไม่หลับโดยตรงที่พบ จะพบในหญิงตั้งครรภ์ ผู้ป่วยโรคหอบหืด อายุรกรรม
วิธีแก้ไขอาการนอนไม่หลับแบบเป็นครั้งคราว
1 ควรจัดห้องนอนให้ป็นระเบียบมีที่ถ่ายเทอกาศได้สะดวกและควรให้แสงเข้าถึงห้องนอนเพราะจะทำให้เรารู้สึกปลอดโปร่งโลงสบายและทำให้รู้สึกอยากนอนมากขึ้นเพราะจะทำให้ห้องเราไม่อับจนเกินไปและทำให้ห้องดูสะอาดน่าอยู่นอกจากจะทำให้น่านอนมากขึ้นแล้วยังเป็นการฝึกให้ตัวเองเป็นคนมีระเบียบอีกด้วย
2 งดเครื่องดื่มจำพวกที่มีคาเฟอีน เช่น น้ำอัดลม กาแฟ เพราะกาเฟอีนมีฤทธิ์กดประสาททำให้เส้นประสาทการควบคุมการทำงานของสมองทำให้ตื่นตัวและทำให้หัวใจทำงานหนังผิดปรกติและหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มชูกำลัง
3อ่าบน้ำอุ่นกอนนอนหรือหากนอนไม่หลับก็ให้อาบน้ำอุ่นเพื่อเป็นการทำให้ร่างกายสดชื่นและสมองผ่อนคลายและอาจจะตามด้วยนมอุ่นๆอีกสักแก้วเพราะในนมอุ่นจะมีเอมไซน์ช่วยย่อยน้ำตาลที่เราได้รับและช่วยให้สมองสามารถดูดซึมเอมไซน์ได้ดีก่อนนอนเพื่อเป็นการปรับสมดุลของร่างกายเรา
4ไม่ควรกินอาหารที่ให้แคลลอรี่มากเช่น เนื้อสัตว์ โปรตีนทั้งหลาย เพราะเมื่อร่างกายของ เพราะเมื่อร่างกายเราได้รับสารอาหารกระบวณการแปลสภาพให้อาหารเป็นพลังงาน
5เพิ่มออกซิเจนให้กับสมองโดยการยืดกล้ามเนื้อเพื่อให้เส้นคลายเพราะจะสามารถลำเลียงออกซิเจนได้ดีจะช่วยส่งออกซิเจนไปยังสมองได้มากขึ้นทำให้สมองปลอดโปร่ง
6หาอาหารจำพวกที่มี วิตามิน b1 6 12 เช่น แอปเปิล มะละกอสุก สับปะรด จะช่วยให้หลับง่ายขึ้น
7การนั่งสมาธิเป็นวิธีที่จำเริญภาวนาจิตทำให้เราได้คิดไตรตรองและทำให้จิตใจเราไม่สงบทำให้คิดแต่เรื่องกกระวนกระวายการนั่งสมาธิจะทำให้จิตใจสงบและเกิดการปล่อยวางจึงทำให้เราไม่คิดไม่กังวนอะไรมากเมื่อไม่เครียดก็ทำให้เาหลับสบาย
วิธีเหล่านี้เป็นแค่เพียงการแนะนำเบื้องต้นเท่านั้นเพราะจริงๆแล้วยังมีอีกหลายวิธีเช่นหา สมุนไพร ชา เอย แต่เราเน้นวิธีที่ประหยัดและทำได้ง่ายโดยไม่ต้องไปเสาะแสวงหามาให้ยุ่งยากแต่ถ้าวิธีเบื้องต้นยังไม่ได้ผลหากจะกินยานอนหลับ ก็ขอให้เป็นตัวเลือกสุดท้ายละกันนะครับโดยเฉพาะยาในกลุ่ม Benzodiazepines โดยส่วนใหญ่ถ้าอยู่ในระดับปลานกลางก็จะอยุ่ในกลุ่มประเภทนี้ยานอนหลับจะใช้ผลได้ดีกับเฉพาะในกรณีที่เป็นครั้งเป็นคราว แต่ถ้าหากใช้ทุกวันหรือบ่อยจะทำให้เกิดการดื้อยาและเสพติดในที่สุด
ทริปแก้นอนกรน
เอาละครับมาถึงกันอีกหนึ่งปัญหาสำหรับการนอนคือการนอนกรนนั้นเองครับโดยเฉพาะผู้ที่มีน้ำหนักตัวมากนั้นเองครับเพราะคนอ้วนจะทำให้กล้ามเนื้อไขมันกดทับเส้นเลือดทำให้หายใจได้ลำบากขึ้นและเส้นเลือดและลำคอตีบทำให้เกิดอาการนอนกรนได้ ในปัจจุบันถ้าหากจะทำให้หายขาด100เปอร์เซน ก็คงจะต้องพึ่งการผ่าตัดแต่ถ้าหากท่านใดยังไม่พร้อมเราก็มีวิธีง่ายๆในการแก้ไขและบางทีอาจจะทำให้หายขาดได้
วิธีแก้ชั่วคราว
- นอนให้หมอนรองศรีษระต่ำไว้เพราะจะทำให้เลือดใหลเวียนได้ดีและทำให้ระบบการทำงานของระบบการทำงานของระบบหายใจและทางเดินหายใจทำงานได้ดีขึ้น
- ลดน้ำหนักสำหรับคนอ้วนเพราะจะช่วยลดไขมันอุดตันในเส้นเลือดและลดการกดทับกระบังลมเพราะให้เกิดการทำงานที่สะดวกขึ้น
- ไม่ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์และไม่สูบบุหรี่เพราะจะทำให้ปอดทำงานฟอกอากาศได้น้อยลงและส่งผลต่อการทำงานของระบบประสาท
- เปลี่ยนท่การนอน ถ้าหากคุณนอนหงายลองปรับเปลี่ยนท้านนอนโดยควรนอนตะแคงหรือนอนคว่ำเพราะการนอนหงายจะทำให้ช่องปากและลำคอได้ง่าย
- ทำให้จมูกโล่งโดยการอาบน้ำอุ่นเช็ดโพรงจมูกเพราะให้อากาศผ่านเข้าไปในลำคอและหลอดลมได้ดขึ้นและควรรับประทานน้ำให้มากๆและควรดื่มน้ำให้มากๆ
via : nanaheath